ขนบธรรมเนียมประเพณี

วัตถุประสงค์ทั่วไป 
     1. ทราบถึงความหมายของประเพณี
     2. เข้าใจลักษณะของประเพณีไทย
     3. เข้าการวิเคราะห์ความสำคัญของขนบธรรมเนียมประเพณีไทยที่มีต่อสังคมไทย
     4. ทราบถึงการปฎิบัติตนตามประเพณ๊และวัฒฯธรรมได้อย่างเหมาะสม

วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
     1. อธิบาย ความหมายของประเพณีได้
     2. อธิบาย ลักษณะของประเพณีไทยได้
     3. วิเคราะห์ความสำคัญของขนบธรรมเนียมประเพณีไทยที่มีต่อสังคมไทยได้
     4. ปฎิบัติตนตามประเพณ๊และวัฒฯธรรมได้อย่างเหมาะสมได้

เนื้อหาสาระ
    
 ชาติไทยที่เจริญรุ่งเรื่องมาช้านาน จึงมีประเพณีที่หลายหลายขนบธรรมเนียมประเพณ๊ในสังคมไทยเป็นสิ่ง
ที่บรรพบุรุษ ยึดถือเป็นแนวปฎิบัติในรูปของความเชื่อ ศีลธรรมจรรยาธรรม ค่านิยม แนวความคิด รวมทั้ง
พิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งเป็นที่ยอมรับและมีอธิพลต่อการดำเนินชีวิตของคนในสังคมไทยจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

ประเพณี

      ประเพณีเป็นการทำกิจกรรมทางสังคมที่ถือปฎิบัติสืบต่อกันมา
ประเพณี ในสังคมไทย เรานั้นมีมากมายล้วนเป็น มาดกจากบรรพบุรุษ
จากสิ่งแวดล้อม ทางธรรมชาติและสังคม นับว่าคนไทยในปัจจุบัน
โชคดีที่มีแนวทางในการ ดำเนินชีวิตที่ดีงามไว้ปฎิบัติ เ็ป็นแบบ อย่างแก่ลูกหลานสืบต่อมาจนกระทั่งทุกวันนี้      
  ความหมายของประเพณี 
       คำว่า ประเพณีมายถึงฤติกรรมของมนุษญ์ที่เลือกปฎิบัติตามค่านิยม ในทางที่ดีงาม และเป็นที่ ประสงค์
ของคนส่วนใหญ่ โดยปฎิบัติสืบทอดกัน มาเรื่อย มาจนกลายเป็นความ เชื่อว่าเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญจะต้อง
ปฎิบัติตาม ประเพณี แต่ละสังคมแตกต่างกันไป หากสังคมใดอยู่ใกล้ชิดกัน ประเพณีย่อมคล้่ายคลึงกันได้
เพราะ มีการไปมา หาสู่กัน ทำให้ประเพณี เลื่อนไหล กันได้ซึ่งประเพณีของสังคมยังเป็นบ่อเกิดของวัฒนธรรม
อีกด้วย
ประเภทของประเพณี
      
เราอาจแบ่งประเพณีออกเป็น 3 ประเภท
      1. จารีตประเพณีหรือกฎศีลธรรม (Mores) 
          หมายถึง สิ่งที่สังคมใดสังคมหนึ่งยึดถือและปฎิบัติสืบกันมาอย่างต่อเนื่องและมั่นคง เป็นเรื่องของความ
ถูกผิด มีเรื่องของ ศลีธรรมเข้าร่วมกัน ใครฝ่าฝืนหรือฉยเมยถือว่าเป็นการละเมิดกฎสังคม ผิดประเพณีสังคม
จารีตประเพณีหรือกฎศีลธรรมของ แต่ละสังคมย่อมไม่เหมือนกันสังคมไทยเห็นว่า การมีความสัมพันธ์ทางเพศ
ก่อนแต่งงานเป็น การผิดจารีตประัเพณี แต่ชาวสวีีเดน เห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้น จารีตประเพณีเป็นเรื่อง
ของแต่ละสังคม จะใช้ค่านิยมของสังคมหนึ่ง ไปตัดสินสังคมอื่นไม่ได้        2. ขนบธรรมเนียมหรือสถาบัน
            
เป็นระเบียบแบบแผนทีีสังคมได้กำหนดไว้แล้วปฎิบัติสืบกันมา คือรู้กันเอง ไม่ได้เป็นระเบียบแบบแผน
ไว้าว่าควรประพฤติปฎิบัติกันอย่างไร มักใช้คำว่าสถาบันมาแทนขนบธรรมเนียมประเพณี ซึ่งคนในสังคมมีความ
พอใจ เป็นที่ปฎิบัติสืบต่อกันมา มีข้อกำหนดบังคับเอาไว้ เช่น สถาบันการศึกษามีครู ผู้เรียน เจ้าหน้าที่ มีระเบียบ
การรับสมัครเข้าเรียน การสอนไล่ ประเพณีเกี่ยวกับการเกิด การบวช การแต่งงาน การตาย มีกฎเกณฑ์ของ
ประเพณีวางไว้ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อจำเป็น
      3. ธรรมเนียมประเพณีหรือประเพณีนิยม 
(Convention)
          
เป็นแนวทางการปฎิบัติในการดำเนินชีวิตประจำวันที่ปฎิบัติกันมาจนเคยชิน แต่ต้องไม่ขัดแย้งกัน เป็นเรื่อง
ของทุกคนควรทำแม้มีผู้ฝ่าฝืนหรือทำผิดก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ แต่อาจถูกตำหนิได้ว่าไม่มีมารยาท ไม่รู้จัก
กาลเทศะ เช่น การแต่งกาย การรัปประทานอาหาร การดื่มน้ำจากแก้ว
     
        ลักษณะของประเพณีไทย
         
การศึกษารายละเอียดของประเพณี จะแยกเป็น 2 ประเภท คือ ประเพณีเกี่ยวกับชีวิต ประเพณีเกี่ยวกับ
เทศกาล
        1. ประเพณีส่วนบุคคล หรือประเพณีเกี่ยวกับชีวิต
        เป็นประเพณีเกี่ยวกับการส่งเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย ได้แก่ ประเพณีการเกิดการบวชก่ารแต่งงาน การตาย การทำบุญในโอกาสต่าง ๆ
        1.1 ประเพณีการเกิด เป้นเรื่องสังคมไทยให้ความสำคัญ แล้วแต่ความเชื่อของบุคคลหรือสังคม ที่ตนอยู่ ซึ่งแต่เดิมคนเชื่อ
ในสิ่งลึกลับพิธีกรรมจึงมีตั้งครรภ์จนคลอดเพื่อป้องกันภัยอันตรายจากทารก เช่น ทำขัวญเดือน โกนผมไฟ
พิธีลงอู่ตั้วชื่อ ปูเปลเด็ก โกนจุก (ถ้าไว้จุก)เป็นต้น
        
1.2 ประเพณีการบวช ถือเป็นสิ่งที่อบรมสั่งสอนให้เป็นคนดี ตลอดจนทดแทนบุญคุณ พ่อแม่ ผู้ให้กำเนิด
ตัวผู้บวชเอง ก็มีโอกาส ได้ศึกษาธรรมวินัย 

                      - การบรรพชาคือการบวชเณร ต้องเป็นเด็กชายที่มีอายุตั้งแต่ 7 ขวบขึ้นไป
                      - การอุปสมบท
 คือ การบวชพระ ชายที่บวชต้องมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ 
         1.3 ประเพณีการแต่งงาน เกิดขึ้นภายหลังผู้ชายบวชเรียนแล้ว เพราะถือว่าได้รับการอบรม
มาดีแล้ว เมื่อเลือกหาหญิงตามสมควรแก่ฐานะ ฝ่ายชายก็ให้ผู้ใหญ่ไปสู่ขอฝ่ายหญิง ขั้นตอนต่าง ๆ ก็เป็นการ
หาฤกษ์หายาม พิธีหมั้น พิธีแห่ขันหมาก การรดน้ำประสาทพร การำบุญเลี้ยงพระ พิธีส่งตัวเจ้าสาว เป็นต้น
การประกอบพิธีต่าง ๆ ก็เพื่อความเป็นมงคลให้ชีวิตสมรสอยู่กันอย่างมีความสุข
         1.4 ประเพณีการเผาศพ ตามคติของพระพุทธศาสนา ถือว่าร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยธาตุ 4 คือ
                          - ดิน (เนื้อ หนัง กระดูก)
                          - น้ำ (เลือด เหงื่อ น้ำลาย)
                          - ลม (อากาศหายใจเข้า-ออก)
                          - ไฟ (ความร้อนความอบอุ่นในตัวเรา)
          ดังนั้น เมื่อสิ้นชีวิตแล้ว สังขารที่เหลือจึงไม่มีประโยชน์อันใด การเผาเสียจึงเป็นสิ่งดี ผู้ที่อยู่เบื้อง
หลังไม่หว่งใย โดยมากมักเก็บศพไว้ทำบุญให้ทานชั่วคราว เพื่อบรรเทาความโสกเศร้า โดยปกติมักทำการเผา
100 วันแล้ว เพราะได้ทำบุญให้ทานครบถ้วนตามที่ควรแล้ว
         2. ประเพณีเกี่ยวกับสังคม หรือประเพณีส่วนรวม
              
เป็นประเพณีที่ีประชาขนส่วนใหญ่ในสังคมถือปฎิบัติ ได้แก่ ประเพณีทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ประเพณี
สงกรานต์ ประเพณีสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นต้น ประเพณีส่วนร่วมที่คนไทยส่วนมากยังนิยมปฎิบัติกันเช่น
               2.1 ประเพณีสงการนต์
ภาพประเพณีสงการนต์
     เป็นประเพณีที่กำเนิดมาจากประเทศอินเดีย เป็นประเพณีเฉลิมฉลองการ เริ่มต้นปีใหม่ ไทยเราใช้กันมาตั้ง
แต่สมัย สุโขทัย เป็นราชธานี วันที่เริ่มต้นปีใหม่คือวันที่ 13 เมษายนของทุกปีถือปฎิบัติจนถึงปี พ.ศ. 2483
รัซบาล จึง ได้กำหนด ให้วันที่ 1 มกราคม เป็นวันปีใหม่ ในวันสงการนต์จะมีการ ทำบุญ ตักบาตร  ปล่อยนก
ปล่อยปลาสรงน้ำพระพุทธรูปพระสงฆ์ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่การเล่นสาดน้ำกัน การเล่นก๊ฬาพื้นเมือง ปัจจุบันยังเป็น
ประเพณีนิยมเพื่อความบันเทิงสนุกสนาน ได้เยี่ยมพ่อแม่ ญาติพี่น้อง
              2.2 ประเพณีเข้าพรรษา สืบเนื่องจากอินเดียสมัยโบราณ กำหนดให้พระสงฆ์ที่จาริกไปยังสถานที่
ต่างๆ กลับมายังสำนนักของอาจารย์ในฤดูฝน เพราะลำบากแก่การจาริก ยังได้ทบทวนความรู้ อุบาสก อุบาสิกา
ได้ทำบุญถวายผ้าอาบน้ำฝน ถวายต้นเทียน เพื่อให้พระสงฆ์ใช้ในพรรษา ชาวไทยถือนิยมปฎิบัติการเข้าพรรษา
แรกื คือปุริมพรรษา เริ่มตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 8 จนถึงขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11
              2.3 ประเพณีทอดกฐิน ทอดผ้าเมื่อพ้นพรรษาแล้วจะมีประเพณีถวายผ้าพระกฐินแก่พระสงฆ์
เพื่อผลัดเปลี่ยนกับชุดเดิม ซึ่งถือปฎิบัติกันมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย
                   การทอดกฐิน เริ่มตั้งแต้่ วันแรม1 ค่ำ เดือน 11 จนถึงกลางเดือน 12 รวมเวลา 1 เดือน
จะทอดก่อน หรือหลังนี้ก็ได้
ภาพประเพณีการทอดกฐิน
                   การทอดผ้าป่าประเพณีทอดผ้าป่าเริ่มเมื่อรัชกาลที่4 ทรงทอดผ้าป่าครั้งแรกที่วัดสระปทุม
การทอดผ้าป่าไม่กำหนดระยะเวลาเหมือนกฐิน สามารถทอดได้ทุกฤดูกาล
          ประเพณีท้องถิ่น
           
ได้แก่ ประเพณีนิยมปฎิบัติกันในแต่ละท้องถิ่น หรือภูมิภาคของประเทศไทย ดังนี้
              - ภาคกลาง เช่น ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ ประเพณีวิ่งควาย ตักบาตรเทโว ทำขวัญข้าว เป็นต้น
ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ
ประเพณีวิ่งควาย
ตักบาตรเทโว
ทำขวัญข้าว
      - ภาคใต้ เช่นประเพณีบุญเดือนสิบ ประเพณีชักพระ ประเพณีวิงเปรต ประเพณีเห่ผ้าขึ้นพระธาตุ เป็นต้น
ประเพณีบุญเดือนสิบ
ประเพณีวิงเปรต
ประเพณีชักพระ
ประเพณีเห่ผ้าขึ้นพระธาต
            - ภาคเหนือ เช่น ประเพณีสงการนต์ ประเพณีรดน้ำดำหัว ประเพณีปอยส่างลอง เป็นต้น
ประเพณีสงการนต์
ประเพณีรดน้ำดำหัว
ประเพณีปอยส่างลอง
          - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่นประเพณีไหลเรือไฟ ประเพณีบุญบั้งไฟ ประเพณีแห่เทียนพรรษา
ประเพณีแห่ผีตาโขน เป็นต้น
ประเพณีไหลเรือไฟ
ประเพณีบุญบั้งไฟ
ประเพณีแห่เทียนพรรษา
ประเพณีแห่ผีตาโขน
          ขนบธรรมเนียมประเพณีไทยทุกภาค มีความสำคัญต่อคนไทยในแต่ละภาค แสดงให้เห็นว่าสังคมไทย
เป็นสังคมที่มีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ควรส่งเสริมและอนุรักษ์ไว้เพื่อเป็นมรดก
ของสังคมสืบไป
 ความสำคัญของขนบธรรมเนียมประเพณีไทย 
          วัฒนธรรมประเพณีของชาติ ล้วนแสดงให้เห็นความคิด ความเชื่อ ที่สะท้อนถึงวิธีการดำเนินชีวิต
ความเป็นมา ความสำคัญ ซึ่งล้วนเป็นส่วนหนึ่งของอารยธรรมไทย ดังนั้น ขนบธรรมเนียมประเพณีไทยจึง
มีความสำคัญ พอสรุปได้ดังนี้
         1. ความเป็นสิริมงคล ขนบธรรมเนียมประเพณีไทยนั้น ล้วน เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาและพราหมณ์
พิธีกรรมต่าง ๆ ที่ปฎิบัติสืบทอดกันมานั้น เป็นความเชื่อเรื่องของความเป็นมงคลแก่ชีวิต
         2. ความสามัคคี ความเสียสละ ขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นเครื่องฝึกจิตใจให้รู้จักเป็นผู้เสียสละจะเห็นได้จากงานบุญต่าง ๆ มักเกิดการร่วมมือ
ร่วมแรง ร่วมใจกัน เช่นพิธีขนทรายเข้าวัด การก่อเจดีย์ทราย ทำให้เกิดความรักความสามัคคี
         3. การมีสัมมาคารวะ ถือเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีไทยอย่างหนึ่ง แสดงถึงความน้อมน้อม อ่อนโยน
ความมีมารยาทไทย
         4. ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ช่วยทำให้คนไทยอยู่ในกรอบที่ดีงาม ถือว่าเป็นเครื่องกำหนด
พฤติกรรม ได้อย่างหนึ่ง
         5. ขนบธรรมเนียมประเพณีในแต่ละท้องถิ่น ถึงแม้ว่าจะแตกต่างกัน แต่ทุกคนก็มีความรู้สึกว่าทุกคน
เป็นคนไทย มีความเป็นชาติเดียวกัน และสามารถแบ่งออกถึงความเป็นมาของชาติได้ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น